‘เจฟ ซาเตอร์’ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝัน ผ่านซิงเกิลล่าสุด 'Lucid' ก่อนที่เธอจะลืมฝัน

‘เจฟ ซาเตอร์’ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝัน ผ่านซิงเกิลล่าสุด 'Lucid' ก่อนที่เธอจะลืมฝัน

‘เจฟ ซาเตอร์’ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝัน ผ่านซิงเกิลล่าสุด 'Lucid' ก่อนที่เธอจะลืมฝัน

เจฟ ซาเตอร์ ศิลปิน นักร้อง และนักแต่งเพลง ปล่อยซิงเกิลใหม่ล่าสุดพาแฟนเพลงก้าวเข้าสู่โลกแห่งความฝันที่ไม่อาจจับต้องได้ ในบทเพลงที่มีชื่อว่า Lucid (ลูซิด) ซึ่งเป็นซิงเกิลลำดับที่ 7 และซิงเกิลเพลง ภาษาต่างประเทศลำดับที่ 4 ของ เจฟ ซาเตอร์ กับ Wayfer Records ค่ายเพลงในสังกัด Warner Music Thailand

Lucid เป็นเพลงแนวบัลลาดนำเสนอเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในโลกที่เป็นเสมือนดั่งเทพนิยาย และไม่ต้องการให้เรื่องราวความรักของพวกเขาต้องสิ้นสุดลง เปรียบเสมือนกับกับที่เวลาตื่นเช้าขึ้นมา และคนเรามักจะลืมความฝันไป ถึงแม้ว่าเรื่องราวในฝันนั้นจะสวยงามเพียงไหนก็ตาม เจฟสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้ ด้วยการจินตนาการว่าได้เข้าไปในความฝันของคนรัก ได้มีเรื่องราวความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน และไม่ต้องการให้เธอลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อต้องตื่นขึ้นมา โดยเพลงนี้สามารถถ่ายทอดความหมายของชื่อเพลงเป็น ภาษาไทยได้ว่า “ก่อนที่เธอจะลืมความฝัน”

ในท่อนแรกของบทเพลง เจฟ จึงได้นำเสนอการทะนุถนอมความรักร่วมกันไว้ว่า
“Won’t you miss the nights you slept in my arms?
And knew, we would find a place in the stars
For two, taking you to dance in the sky”

ซึ่งท่อนดังกล่าวได้นำเสนอความรัก ความลุ่มหลง และความโหยหาถึงช่วงเวลาที่ดี ๆ ที่เกิดขึ้น ราวกับว่าเราทั้ง สองนั้น ได้เต้นรำท่ามกลางหมู่ดาวอยู่บนฟากฟ้า ซึ่งใครจะรู้ว่าศิลปินหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งคนนี้ จะมีความเจ้าบท เจ้ากลอน เขียนเพลงออกมาได้อย่างสละสลวย ราวกับบทกวีที่ถูกบรรยายออกมาอย่างลึกซึ้ง

ทำนองและเนื้อร้องของเพลงนี้ ผ่านกระบวนการแต่งเพลงในรูปแบบของเจฟ ที่ลึกซึ้งมากไปกว่า เรื่องราวของความสัมพันธ์เหมือนอย่างเพลงอื่น ๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นการคิดในรูปแบบที่เป็นนามธรรม และจับต้องไม่ได้ก่อน - จะเป็นอย่างไรถ้าต้องแต่งเพลงที่เป็นเหมือนเทพนิยายปรัมปราหรือแฟนตาซี? จึงทำให้ภาษาที่ใช้นั้น มีความหมายลึกซึ้ง ที่อ่านผ่าน ๆ และทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอ่านบทกวีเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งเรื่องของเวลาแห่งห้วงความฝัน ที่เจฟอธิบายว่า มันคือเวลาที่ใกล้จะสว่าง หรือที่เรียกกันว่า รุ่งสาง เมื่อนำมาผนวกกับสิ่งที่เป็นปริศนา การค้นหาความทรงจำในมักจะหายไปในยามตื่น เจฟจึงได้คิดแทนที่ตัวเอง ว่าเป็นความฝัน แล้วถามตัวเองว่า ถ้าเขาเป็นความฝัน เขาจะร้องเพลงเกี่ยวกับอะไร?

“ผมต้องการเขียนผลงานที่ เป็นทั้งแนวคิดและเป็นตำนาน ที่ทุกคนสามารถเชื่อในความเป็นไปได้ในสิ่งที่ใคร ๆ ต่างบอกว่าเป็นไปไม่ได้” เจฟ ซาเตอร์ เล่า

ในผลงานเพลงล่าสุดชิ้นนี้ เจฟ ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์มิวสิควิดีโอนี้ด้วยโดยเป็นการ ทำงานร่วมกับ จีน คำขวัญ ดวงมณี ผู้กำกับมิวสิควิดีโอมากความสามารถที่มีผลงานมาแล้วมากมาย จากไอเดีย ที่เกิดขึ้นระหว่างเขียนบทเพลง เจฟนึกถึงเรื่องราวของ ปีเตอร์ แพน ที่ต้องการจะเป็นเด็กตลอดไป ในขณะที่เพลงของเจฟคือไม่ต้องการจะตื่นจากความฝัน เรื่องราวในมิวสิควิดีโอจึงเกิดขึ้นในช่วงก่อนรุ่งสาง เป็นช่วงเวลาที่คนสองคนได้ใช้เวลาพิเศษร่วมกัน และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความฝันไปเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละคร และทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมโอบอุ้มเรื่องราวของทั้งสองในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง จีน คำขวัญ ดวงมณี ได้กล่าวถึงการทำงานกับเจฟว่า
“เจฟเป็นคนสนุก และทำงานด้วยง่าย เจฟมีพลังความคิด สร้างสรรค์อย่างล้นเหลือ บทบาทของเราคือการนำไอเดียของเจฟมาทำให้เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้เจฟยังเป็น นักแสดงที่มีความสามารถสูงอีกด้วย”

ที่สำคัญเจฟยังคงแสดงนำในมิวสิควิดีโอของตัวเอง และในบทเพลง Lucid นี้ ได้มีโอกาสแสดงคู่กับ เนเน่ พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ นักร้องชาวไทยที่ได้เปิดตัวเป็นศิลปินและได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีน เนเน่ มีความตั้งใจและได้บินกลับมาจากประเทศจีนเพื่อถ่ายมิวสิควิดีโอกับเจฟโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการทำงานที่สร้างความประทับใจและความสนุกสนานกับทั้งคู่ โดย เนเน่ พรนับพันได้ฝากความรู้สึกที่ได้ทำงานกับเจฟไว้ว่า “ได้ติดตามผลงานของเจฟมาสักระยะแล้ว และก็ตื่นเต้นมาก ๆ ที่เจฟได้ชวนร่วมงานในมิวสิควิดีโอของเจฟ เมื่อได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็ชอบทันที และเมื่อเจฟเล่าถึงแนวคิดของการทำเอ็มวีก็ยิ่งรู้สึกถูกใจและเป็นเกียรติมาก ๆ ที่เจฟเลือกเราไปร่วมงาน”

ฟังและชมมิวสิควิดีโอเพลง Lucid – ก่อนที่เธอจะลืมฝัน